Monday, October 17, 2011

Ven. Luangphu Junta Thawaro 2, Phichit


เห็นสาวสวรรค์
หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จังหวัดพิจิตร

ปี ๒๕๐๑ ได้ขึ้นไปภาวนาอยู่ที่ วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี กับหลวงปู่ขาว อนาลโย และหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ในสมัยนั้น วัดถ้ำกลองเพลยังไม่เจริญ ไม่สะดวกสบายเหมือนทุกวันนี้ เมื่อไปอยู่ที่นั่นก็ตั้งใจทำความเพียรไม่ลดละ เร่งรัดพัฒนาทำความเพียร ด้วยการอดนอนผ่อนอาหารตลอดไตรมาส ๓ เดือน ตั้งใจทำความเพียรอย่างนั้น อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันเพ็ญ เมื่อเดินจงกรมเสร็จแล้วก็ไปนั่งภาวนาอยู่ในถ้ำใหญ่ นั่งสมาธิกำหนด พุทโธ เป็นอารมณ์ของสติ



ไม่นานจิตก็วาง พุทโธ แล้วจิตก็รวมลงสู่ภวังคภพอันแน่นแฟ้น อุปจารธรรม เกิดขึ้น มีแสงสว่างกระจ่างแจ้งเกิดขึ้นกลางคืนเหมือนกลางวัน สว่างโร่อย่างนั้น
      ไม่นานก็มีฝูงเทพยดาทั้งหลายมีแต่ผู้หญิงล้วนๆ รูปร่างใหญ่โตมโหฬารสวยงามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ ถือธงแดงและธูปคนละอันลงมาจากฟากฟ้า มาถึงถ้ำแล้วก็เอาธงปักจุดธูปแล้วก็พากันกราบไหว้ กราบที่ ๑ ว่า พุทโธ กราบที่ ๒ ว่า ธัมโม กราบที่ ๓ ว่า สังโฆ สรณัง คัจฉามิ เสร็จแล้วก็ทำวัตรเย็น จากนั้นก็สวด ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อนัตตลักขณสูตร และอาทิตตปริยายสูตร ทั้ง ๓ สูตร นี้ เขาเรียกว่า ราชาธรรม เป็นธรรมอันยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธ ธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์มารวมอยู่ที่นี่ทั้งหมด เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้ว เขาก็นั่งภาวนา นานนะเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง สามชั่วโมงนะ เรียบร้อยดี สงบดี เมื่อเสร็จแล้วเขาก็กราบ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แล้วเขาก็จะจากไป จึงได้กำหนดถามเขาว่า
     “โยม..มาจากสถานที่ใด?”
     เขาก็ว่า “ท่านอาจารย์ พวกดิฉันมาจากเมืองสวรรค์”
     “มาที่นี่เพื่อประโยชน์อะไรหรือโยม?”
     เขาก็ตอบว่า “มาบูชาแก้วทั้ง ๓ ประการนะท่าน”
     “บูชาเพื่อประโยชน์อะไร?”
     “เพื่อบำเพ็ญกุศลนะท่าน เพราะแก้วพุทโธ แก้วธัมโม แก้วสังโฆ นั้นเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในการบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนและของหอม”

       ถามเขาไปอีกว่า “อยู่บนสวรรค์ไม่ได้บำเพ็ญหรือโยม?”
     “บำเพ็ญอยู่เหมือนกัน แต่ได้รับผลน้อย ไม่ได้มากเหมือนบำเพ็ญอยู่ในเมืองมนุษย์ ในเมืองมนุษย์ทำน้อยได้มาก ทำมากก็ยิ่งได้มาก เพราะเป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญบุญกุศล จะไปสวรรค์หรือพรหมโลก ก็ต้องมาบำเพ็ญบุญในเมืองมนุษย์นี้ก่อน จะไปพระนิพพานพ้นทุกข์จากโลกสงสารก็ต้องมาบำเพ็ญบุญในศาสนาพุทธ ในเมืองมนุษย์นี่เสียก่อน จึงจะได้ นอกนั้นไม่มี”
     “นั่นแหละ ในสมัยศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโปโน้น พวกข้าพเจ้าทั้ง หลายเป็นหญิงชาวบ้านชาวเมือง พากันประพฤติวัตรปฏิบัติขัดสีแก้วทั้ง ๓ ประการ ให้สว่างไสวรุ่งโรจน์ทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยการเดินจงกรมบูชาแก้ว ยืนภาวนาบูชาแก้ว นั่งสมาธิบูชาแก้ว ไหว้พระสวดมนต์บูชาแก้วทั้ง ๓ ดวงนี้ แก้วพุทโธ แก้วธัมโม แก้วสังโฆ ทำอยู่อย่างนั้นเป็นนิจไม่ลดละ ล้วนแต่เป็นบุญกุศลทั้งนั้น ทานการกุศลสิ่งใดที่ให้แก่สมณะชีพราหมณ์นั้น ก็จะกลายเป็นของทิพย์ไปรอคอยอยู่บนสวรรค์หมดทั้งนั้น”
     “ฉะนั้น เมื่อพวกข้าพเจ้าไปเกิดบนสวรรค์ ก็มีแต่ความสุขสำราญ เป็นผลมากจากการประพฤติปฏิบัติธรรมกันมาถึง ๒ หมื่นปี ในสมัยศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโป ผู้คนอายุยืน ๒ หมื่นปีนะท่าน”
พวกเทวดาเหล่านั้นก็ล้วนแต่มีรูปร่างสูงใหญ่สวยงาม มีผิวสีขาวเหลืองแดง ไว้ผมยาว มีสายสร้อยรอบตัว นุ่งผ้าวาวครึ่งแข้งเหมือนคนโบราณ เวลาเดินก็งาม พูดก็งาม อะไรๆ ก็ดูสวยสดงดงามทั้งนั้น เหมือนกับพระจันทร์วันเพ็ญ เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์แล้วไกลกันเหมือนฟ้ากับดินนะ ดูมนุษย์เราแล้วเหมือนกับลิง
     จากนั้นเขาก็ฝากธรรมะว่า
     “ท่านอาจารย์ ขอได้โปรดไปแนะนำพร่าสอนญาติโยมทั้งหลายให้พากันบำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา บำเพ็ญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน ศีล สมาธิ ปัญญา มรรค ๘ โพชฌงค์ ๗ และพากันเดินจงกรม ฝึกจิต อบรมจิต สอนจิต ทรมานจิต นั่งสมาธิ ยืนภาวนา ฝึกจิต อบรมจิต สอนจิตให้มันดี นั่นแหละ จะเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เหมือนดังที่พวกข้าพเจ้าทำอยู่อย่างนั้น ๒ หมื่นปี เมื่อสิ้นลมแล้วเหมือน กับว่านอนหลับแล้วก็ตื่นขึ้นฉะนั้น”
     “ให้เอาศรัทธาเป็นไม้ถ่อและไม้พายนะ ทาน ศีล ภาวนา เป็นเรือขี่ข้ามโอฆสงสารไปพระนิพพาน ภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นที่พึ่ง จะพาขึ้นสู่สวรรค์ จนกระทั่งถึงพระนิพพานได้”
     เสร็จแล้วเขาก็ลาจากไป ปลิวขึ้นสู่อากาศเหมือนกับนุ่นต้องลม ปลิวเข้าสู่กลีบเมฆหายไปเลย ขณะที่สนทนากันนั้นลืมถามไปว่า พวกเขาเหล่านั้นมาจากสวรรค์ชั้นใด ได้ถามแต่ว่า
     “ทำไมจึงมีแต่นางเทพยดา ไม่เห็นมีเทพบุตร?”
     เขาก็ตอบว่า “เมื่อครั้งที่พวกข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ ได้บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนานั้น ไม่มีพวกผู้ชายไปบำเพ็ญด้วย ดังนั้น เมื่อไปเกิดบนสวรรค์จึงไม่มีเทพบุตร”
     นั่นแหละ ทำอย่างไร ก็ได้ผลอย่างนั้น รุ่งเช้าไปทำกิจวัตร หลวงปู่ขาว ท่านถามว่า “เมื่อคืนนี้ภาวนาเห็นอะไรบ้าง?”

หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
     หลวงปู่ครับ ผมตั้งสัตย์ไว้แล้วว่า จะไม่ลงนอนทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อคืนนี้ ภาวนาแล้วจิตสงบ เห็นสาวสวรรค์ลงมาจากสวรรค์ราว ๖๐ คน มีรูปร่างสูงใหญ่สวยงาม ถือธงแดงและธูปลงมาคนละอัน เอามาปักไว้หน้าถ้ำ แล้วก็พากันไหว้พระ สวดมนต์ จบแล้วก็นั่งภาวนา เสร็จแล้วก่อนที่เขาจะจากไป ได้ถามเขาว่า มาจากไหน เขาก็ตอบว่า มาจากเมืองสวรรค์” หลวงปู่ขาว ท่านก็ว่า “ปัจจัตตัง” จะรู้เห็นเฉพาะผู้ปฏิบัติ ใครปฏิบัติผู้นั้นก็จะเห็นเองนะ แต่ถ้าปฏิบัติแล้วจิตไม่สงบก็ไม่เห็น เมื่อจิตสงบลงสู่อุปจารธรรมแล้วจะเห็นได้ เพราะจิตเข้าสู่ภพเดียวกับพวกเขาเหล่านั้น”
     นั่นแหละ ก็เห็นจริงแจ้งชัดประจักษ์ว่า สวรรค์นั้นมีจริง ถึงแม้จะไม่ได้ไปเห็นเมืองสวรรค์ แต่ก็ได้เห็นนางเทพยดาทั้งหลายเหาะลงมาจากฟ้า ลงมาไหว้พระสวดมนต์ และนั่งภาวนาอยู่ที่วัดถ้ำกลองเพลนั้น





จากหนังสือประวัติ หลวงปู่จันทา ถาวโร




No comments:

Post a Comment